พาชมคอนโด “The Nest Sukhumvit 64” ใช้ชีวิตเรียบหรูอย่างมีสไตล์ ใส่ใจในทุกรายละเอียดการอยู่อาศัย
พาชมโครงการ “The Nest Sukhumvit 64” คอนโดมิเนียมบนทำเลที่มีความสะดวกสบายของซอยสุขุมวิท 64 จาก The Nest Property ที่ออกแบบด้วยแนวคิด Perfection in Practical Living ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา ครบครับด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีสไตล์เหนือระดับ
ชื่อโครงการ : “The Nest Sukhumvit 64” (เดอะเนสท์สุขุมวิท 64)
เจ้าของโครงการ : บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ประเภท : Low rise condominium
ที่ดิน : 2-2-21 ไร่
ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 64/1
จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร ( เฟสแรก อาคาร A และ B เฟสสอง อาคาร C )
จำนวนยูนิต : 439 ยูนิต
จำนวนที่จอดรถ : 55% ไม่รวมซ้อนคัน
ความสูงห้อง : 2.5 เมตร
แบบห้องพัก
– Studio
-1 Bedroom
-2 Bedrooms
สิ่งอำนวยความสะดวก
– สระว่ายน้า ระบบน้าเกลือ ขนาด 5×15 เมตร
– พร้อมสระว่ายน้าเด็กจำนวน 2 สระ (อาคาร B,อาคาร C)
– ห้องออกกาลังกาย และห้องเอนกประสงค์
– สวนและพื้นที่นั่งเล่นภายนอกอาคาร
– ห้องสมุด-พื้นที่เอนกประสงค์
Exclusive Pre-sale : ในวันที่ 26-27 สิงหาคม 2560
ราคาเฉลี่ย : 90,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน : 600 บาท/ตร.ม.
เบอร์โทรศัพท์ : 089 999 5181 , 083 740 2299 , 02 611 2900
เว็บไซต์ : http://thenestproperty.co.th/ หรือติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook Page: The Nest Property
แผนที่โครงการ
ส่องทำเลโครงการ
“The Nest Sukhumvit 64” (เดอะเนสท์สุขุมวิท 64) ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 64 เชื่อมต่อ สุขุมวิท 66/1 (ซอยพูนสิน) การเดินทางด้วยรถยนต์โดยสามารถใช้ทางลัดเลาะเพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้ทั้ง ถนนสุขุมวิทและถนนสรรพาวุธ และสามารถเดินทางออกนอกเมืองด้วยการใช้ทางด่วนพิเศษบูรพาวิถีก็ง่าย และยังเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวก เนื่องจากอยู่ระหว่าง BTS ปุณวิถีและ BTS อุถมสุข การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือได้ว่าสะดวกเนื่องจากการเชื่อมต่อสามารถเชื่อมต่อสู่ใจกลาง CBD เพียง 10 นาทีถึงสยาม, 5 นาทีถึงอโศก และ 3 นาทีถึงทองหล่อ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้ ทั้งรอบโครงการและตัวย่านอุดมสุข เรียกได้ว่ามีให้อย่างครบครัน ทั้งโรงเรียน, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, ตลาดสำหรับจับจ่ายใช้สอย, คาเฟ่ และร้านอาหารบรรยากาศดี ที่พร้อมให้พักผ่อนได้กับวันสบายๆ หรือเป็นที่นัดพบปะกับเพื่อน สามารถใช้เวลาทั้งวันกับย่านนี้ได้โดยไม่เบื่อเลย เนื่องจากทุกที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ และยังแนวโน้มการพัฒนาพื้นที่ ทำให้โครงการเป็นพื้นที่แห่งอนาคตอีกด้วย
ตลาดอุดมสุข ที่พร้อมสามารถใช้เวลาในการจับจ่ายใช้สอยอาหารสด และอาหารพร้อมปรุง และยังมีร้านเด็ดๆให้ได้เลือกนั่งรับประทานอีกด้วย
โรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore โรงเรียนนานาชาติที่มีมาตารฐานระดับสากล
True Digital Park พื้นที่ศูนย์กลางดิจิตอลที่พร้อมจะเปิดโลกการเรียนรู้ให้กับคุณด้วยบรรยากาศ World Class co-working space โดยมีแผนจะสร้างเสร็จในปี 2561
One Udomsuk ช็อปปิ้งมอลติดบีทีเอสอุดมสุขที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วยฟิตเนส โยคะฟลายที่หรือจะเป็นบรรยากาศคาเฟต์สำหรับคนรักสัตว์อย่าง คาเฟ่ต์แมว Cat Cafe by Dome
Central Bangna ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่บนถนนบางนา ที่ภายในรวบรวมไปด้วย ร้านอาหารชั้นนำ และ Shop จากร้านดัง พร้อมด้วยสวนน้ำ Pororo AquaPark Bangkok (โพโรโระ อควาพาร์ค) ที่คอยต้อนรับคุณหนูๆ มาออกกำลังกายและสนุกสนานกัน
Bangkok mall โครงการมิ๊กซ์ยูสขนาดยักษ์ที่พร้อมจะยกระดับการใช้ชีวิตที่เหนือระดับด้วยความหรูหราด้วยคอนเซ็ปต์ “City in the City” ที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกบางนา
มุ่งหน้าสู่โครงการ The Nest Sukhumvit 64
โครงการ “The Nest Sukhumvit 64” (เดอะเนสท์สุขุมวิท 64) สามารถเดินทางได้สะดวกจาก BTS ปุณณวิถี โดยลงที่ทางออกที่ 6 แล้วเดินขึ้นมาทางทิศใต้ จะเป็นปากซอยสุขุมวิท 64
สถานที่สำคัญบริเวณโดยรอบ BTS ปุณณวิถี
โดยเราจะเลี้ยวเข้าไปยังโครงการ ทางซอยสุขุมวิท 64
บรรยากาศของซอยสุขวิทซอย 64
บรรยากาศภายใน ซอยสุขุมวิท 64 ที่เป็นถนน 2 เลน สามารถลัดเลาะไปทะลุ BTS อุดมสุขได้
ผ่านโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore International School ทางด้านซ้ายมือ
ในซอยก็จะมีร้านค้า ร้านคาเฟ่ รวมถึงร้านอาหารตั้งอยู่เป็นระยะ
บริเวณช่วงกลางซอยจะมีร้าน 7 eleven ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลยทีเดียว
เดินเข้ามาเรื่อยๆ บริเวณที่ล้อมรั้วจะเป็นที่ตั้งของอาคาร A และ B ของ เฟส 1 อยู่ฝั่งตรงข้ามคอนโดเอลิโอ
และบริเวณฝั่งตรงข้ามโครงการที่ตอนนี้ล้อมรั้วอยู่ จะมีวินมอเตอร์ไซต์คอยให้บริการ
พื้นที่โดยรอบของโครงการมีการปรับปรุงและลงต้นไม้ไว้แล้ว ส่วนของ Sale gallery นี้จะเป็นที่ตั้งของส่วนของเฟส 2 ตึก C
โดยจะมีถนนสุขุมวิท 64 /1 แยก 3 คั่นระหว่างเฟส 1 และเฟส 2
มาถึงแล้วกับ Sale gallery โครงการ The Nest Sukhumvit 64 ที่ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบหรู
ถนนหน้าโครงการ The Nest Sukhumvit 64 มีร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่ปลูกเรียงรายตลอด 2 ฝั่งถนน
โครงการ The Nest Sukhumvit 64 จะอยู่ตรงข้ามกับ เอลิโอ เดลเลย์ ซึ่งมี Max valu คอยเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยคนภายนอกสามารถเข้าไปใช้บริการได้
เมื่อเลยตรงไปจากโครงการสามารถลัดเลาะไปยัง BTS อุดมสุขได้ที่ถนนสุขุมวิท 66/1
เจาะลึกโครงการ
“The Nest Sukhumvit 64” เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 3 อาคาร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 แปลง แบ่งเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรก เนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 21 ตารางวา ( อาคาร A และ B จำนวน 316 ยูนิต) และ เฟสที่ 2 เนื้อที่ 1 ไร่ 0 งาน 17 ตารางวา (อาคาร C จำนวน 123 ยูนิต)
ผังอาคารโดยรวม
Floor plan ของอาคาร A ,B และ C
โครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส 3 อาคาร โดยที่มีถนนสุขุมวิท 64/1 แยก 3 คั่นกลาง โดยในแต่ละอาคารจะมีจุดเด่นและคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไป โดยจะเน้นให้ผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายไว้คอยให้บริการ
ตัวอาคารของโครงการ วางตัวในแนวยาวในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ อาคารทางด้านหน้าติดกับถนนสุขุมวิท 66/1 มีโอาศได้รับแดดในช่วงบ่าย แต่ด้วยฝั่งตรงข้ามมีอาคารของอีกโครงการก็จะช่วยบังแดดที่จะเข้ามาได้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งตัวอาคารได้รับลมเต็มจากลมทั้ง 2 ฤดูทำให้อาคารจะมีความร้อนน้อยลง พื้นที่สระว่ายน้ำของทั้ง 2 อาคารจะมีแดดล่มตลอดทั้งวัน พื้นที่อาคารที่น่าสนใจคืออาคาร A เพราะห้องส่วนใหญ่จะได้รับแดดน้อยเนื่องจากการบังแดดของอาคารอื่นๆ
เฟส 1 ประกอบด้วย อาคาร A และ B บนเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 21 ตารางวา จำนวน 316 ยูนิต
สำหรับ ตึก A และ B ออกแบบใต้แนวคิด Practical Design & Functional in Every Detail ดีไซน์ เรียบหรู ลงตัว คำนึงถึงการใช้สอยจริงในทุกๆ รายละเอียด
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกก็ให้มาอย่างเต็มเปี่ยมใต้แนวคิด Perfection in Practical Living “ออกแบบเพื่อที่สุดของชีวิตที่ลงตัว” ทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 15 เมตร พร้อมสระว่ายน้ำเด็กจำนวน 2 สระ ( อาคาร B,อาคาร C) , ห้องออกกาลังกาย และ ห้องเอนกประสงค์, สวนและพื้นที่นั่งเล่นภายนอกอาคาร, ห้องสมุด-พื้นที่เอนกประสงค์ เป็นต้น
”หลากหลายสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเติมเต็มความสุขของชีวิตที่ไม่เหมือนใคร”
Garden – Building A สัมผัสความร่มรื่นของสวนภายในโครงการ ด้วยการออกแบบภูมิทัศน์ที่ดูเรียบง่ายสบายตา ด้วยแนวคิด Urban Sanctuary ให้ความร่มรื่นของสวนสวยใจกลางเมืองแต่ยังให้ความรู้สึกสงบและมีความเป็นส่วนตัวด้วยการออกแบบสวนให้มีการเล่นระดับ
สระว่ายน้ำที่เติมเต็มไลฟ์ไตล์คนรักสุขภาพ Swimming pool and walk way ที่ตอบโจทย์การพักผ่อนด้วยการตกแต่งทีมีลูกเล่น และภูมิทัศน์ที่เปรียบเสมือน Sanctuary space ทำให้คุณผ่อนคลายในทุกๆวันที่ชั้น 2 ตั้งอยู่ระหว่าง Building A และ B
สระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมระหว่างอาคาร A และ B
ผังแสดงสิ่งอำนวยความสะดวกของอาคาร A และ B บริเวณชั้น 2
เฟส 1 อาคาร A และ B ออกแบบใต้แนวคิด Practical Design & Functional in Every Detail ดีไซน์ เรียบหรู ลงตัว คำนึงถึงการใช้สอยจริงในทุกๆ รายละเอียดโดยพื้นที่ส่วนกลางของเฟส 1 จะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 เช่น Louge, Game room, Working space, Pantry, Movie room ที่จะอยู่ในโซนของ Relax space รวมทั้ง Multipropose room, Fitness ที่จะอยู่ในโซนของ Active space
Lobby – Building A ที่ออกแบบในบรรยากาศที่อบอุ่นและ Relax เหมาะกับการนั่งพักผ่อนสบายๆ ได้ทุกวัน
บรรยากาศของ Fitness ที่เปิดวิว 180 องศา ให้รู้สึกผ่อนคลายไปพร้อมกับการออกกำลังกาย
Lounge – Building A and B ตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัยในโทนสีครีมสุดหรู ที่แวดล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติ
Lobby – Building B ออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่ง รับแสงและบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
เฟส 2 อาคาร C บนเนื้อที่ 1 ไร่ 0 งาน 17 ตารางวา จำนวน 123 ยูนิต
เฟส 2 อาคาร C ออกแบบใต้แนวคิด Practical Design in Style of Private Living serene living at its fullest นิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิต ที่สะท้อนความมีระดับในแบบฉบับของคุณเอง สัมผัสความสงบ เป็นส่วนตัว รวมถึงความสมบูรณ์แบบของประโยชน์ใช้สอยในดีไซน์ Practical Living
ผังของอาคาร C
Lobby – Building C ที่ตกแต่งได้อย่างหรูหราในสไตล์รวมสมัย มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันออก
Fitness ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายรองรับไว้อย่างครบครัน
Swimming pool – Building C สระว่ายน้ำแบบเกลือ ที่มาด้วยบรรยากาศแบบรีสอร์ท เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับมาพักผ่อนอย่างแท้จริง
แบบห้องพัก “The Nest Sukhumvit 64”
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่อัดแน่นแล้ว ทางโครงการ “The Nest Sukhumvit 64”ยังมีจุดเด่นของการออกแบบในแต่ละยูนิตที่ออกแบบใส่ใจในรายละเอียดให้อยู่อาศัยได้จริงอย่างไม่อึดอัดด้วยคอนเซ็ปต์ “ Practical living” เป็นการออกแบบพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนใช้งานได้จริงในทุกส่วน ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ที่จะไม่ได้ใช้งานเลย
TYPE A 22.70 sq.m. (Building A,B) มีจุดเด่นที่พื้นที่จัดเป็นสัดส่วน ห้องนอนได้รับแสงจากระเบียงเต็มๆ เมื่อเดินเข้ามาจะพบห้องรับแขก และห้องครัวขนาดพอเหมาะ เมื่อมองตรงไปจะเห็นในส่วนของห้องนอนและระเบียง รวมทั้งพื้นที่แต่งตัวขนาดย่อมทีอยู่ติดกับระเบียง ในรูปแบบนี้ เตียงตรงกลางจะเปรียบเสมือนกับโซฟาไปในตัว เนื่องจากมีพื้นที่ทีวีอยู่ตรงหน้า
TYPE B-1B 27.15 sq.m.(Building A,B) มีจุดเด่นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมด้วยห้องครัวที่มีประตูบานเลื่อนเพื่อกันกลิ่น และห้องรับแขกที่เป็นสัดส่วน ห้องนอนเป็นห้องนอนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ทำให้พื้นที่ห้องนอนใช้งานได้มากขึ้น กั้นเป็นห้องแต่งตัวที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่ในรูปแบบนี้จะได้ Shower ที่เล็กกว่ารูปแบบห้องอื่นๆ แต่เมื่อเทียบกับขนาดของห้องนอนที่ใหญ่แล้วถือว่าคุ้มทีเดียว
TYPE F-2 46.05 sq.m.(Building A,B) มีจุดเด่นที่เป็นห้อง 2 ห้องนอนที่กว้างขวาง พื้นที่โดยรวม ใช้งานได้เป็นสัดส่วน ห้องทุกห้องได้รับแสงจากหน้าต่าง แต่เมื่อเปิดเข้ามาสิ่งรกที่เจอคือห้องครัว แต่ก็เหมาะสมกับการใช้งานเพราะเมื่อเราซื้อของมาห้องที่จัดแบบนี้จะค่อนข้างสะดวก นอกจากพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่แล้วในรูปแบบ TYPE F-2 ยังได้ห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของเราในอนาคตอีกด้วย
TYPE C-2 26.70 sq.m.(Building C) มีจุดเด่นที่สามารถใช้ทุกพื้นที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีพื้นที่ไหนที่ไม่สามารถใช้งานได้ มาพร้อมด้วยห้องนอนสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีพื้นที่กว้างขวาง ห้องรับแขกมีพื้นที่ของทีวีตรงกับโซฟา สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่
พาชมห้องตัวอย่าง 1Bedroom ขนาด 25.40 sq.m.
พื้นที่ห้อง 25.40 ตารางเมตรนั้นยังวางห้องในรูปแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส ในรูปแบบนี้พื้นที่ห้องก็ยังคงการเน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นสำคัญ การจัดพื้นที่จะแตกต่างจากห้อง 28.50 ตารางเมตรเนื่องจากในรูปแบบนี้จะไม่มีการกั้นระหว่างพื้นที่ครัวและห้องรับแขก ห้องน้ำเข้าได้จากพื้นที่ห้องรับแขกและห้องครัว ด้วยพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มาก การจัดห้องในรูปแบบนี้ถือว่าค่อนข้างลงตัวเนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกจุดของห้อง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องรับแขกที่จัดได้ลงตัว มาพร้อมด้วยชั้นวางของด้านข้าง โดยห้องที่ขายจะเป็นแบบ Fully Furnished มีความสูง 2.5 เมตร และกลอนประตูห้องจะเป็นแบบ Digital door lock
โดยโซฟาที่ทางโครงการให้มาเป็นโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง และโต๊ะรับแขกขนาดเล็ก สำหรับภายในห้องผนังจะเป็นแบบ ฉาบเรียบทาสี
ตรงข้ามโซฟาจะเป็นทีวีซึ่งถือว่าโอเคเนื่องจากตั้งตรงกับเซนเตอร์ของโซฟา ทางด้านข้างจะเป็นทางเดินไปครัว พื้นทั้งหมดเป็นไวนิลไทล์ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วยสีโทนสว่าง และไม่เย็นเท้าเหมือนเวลาเดินบนพื้นกระเบื้อง
ส่วนของห้องนอนได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างแบบเต็มบาน นอกจากนี้ทางโครงการยังใช้ไฟดาวน์ไลท์ LED ที่ช่วยในการประหยัดพลังงานอีกด้วย
ระบบเครื่องปรับอากาศจะเป็นแบบ Split type ตู้เสื้อผ้าภายในห้องเป็นประตูบานสไลด์แบบ Built in ที่ซ่อนเข้าไปในผนัง ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ห้องนอน
ส่วนของห้องครัวใช้บานพับแบบ Soft close ไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บของเพราะทางโครงการให้พื้นที่ค่อนข้างมากทีเดียว
โต๊ะรับประทานอาหารจัดเป็นพื้นที่หันเข้ากำแพง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รูสึกอึดอัด เนื่องจากอยู่ติดกับส่วนของระเบียง และด้วยการตกแต่งด้วยโทนสีขาวทำให้รู้สึกสว่าง สบายตา เครื่องครัวทั้งหมดเป็นของ Hafele
บริเวณพื้นที่นอกระเบียง สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ทางโครงการได้เตรีมปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย
มุมมองจากห้องครัวไปยังห้องน้ำ จะเจอกับอ่างล้างหน้าแยกไปด้านซ้ายจะเป็นห้องอาบน้ำ ด้านขวาเป็นสุขภัณฑ์
ห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิค ตกแต่ด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อน สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Hafele
แบ่งพื้นที่ ส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยประตูกระจกนิรภัยบานเปลือย
พาชมห้องแบบ 1 Bedroom 28.50 sq.m.
พื้นที่ห้องโดยรวมให้พื้นที่ที่เหมาะกับการใช้งานไม่มีพื้นที่ที่เสียเปล่า ห้องรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสทำให้พื้นที่เป็นสัดส่วนมีการแยกส่วนครัวพร้อมกันกลิ่นเข้ามาภายในห้องด้วยประตูบานสไลด์ เมื่อเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขก แล้วจึงแยกไปที่ห้องต่าง พื้นที่ทุกส่วนได้แสงธรรมชาติ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเหมาะสมกับการใช้งาน ทุกห้องให้ความสูงเท่ากันที่ 2.5 เมตร ห้องที่ขายเป็นห้อง Fully Furnished คือห้องที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่
มุมมองเมื่อมองเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง พื้นห้องทั้งหมดเป็นไวนิล-ไทล์ ลายไม้ ทำความสะอาดง่าย อีกทั้งยังไม่บวมเหมือนพื้นลามิเนต
ห้องครัวจัดพื้นที่ได้พอเหมาะเป็นสัดส่วน พร้อมด้วยพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 2 คน ที่ไม่อึดอัด
ครื่องครัวเช่น อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า, ที่ดูดควัน เป็นของ Hafele ที่เป็นยี่ห้อชื่อดังจากเยอรมัน ได้รับความนิยมจากสถาปนิกที่ทำงานบ้านหรูหรา
Top เคาร์เตอร์ครัวทำจากหินสังเคราะห์ ทีมีข้อดีคือการทำความสะอาดที่ง่ายกว่าหินจริงเนื่องจากจะไม่มีการซึมน้ำ
ลิ้นชักบานพับทั้งหมดเป็นระบบ Soft close ไม่ก่อให้เกิดเสียงดังเวลาใช้งาน และยังช่วยยืดอายุการใช้งนของบานพับอีกด้วย
พื้นที่ระเบียงมีการยกขอบพื้นช่วงประตูบนสไลด์ ทำให้น้ำไม่ซึมเข้ามาภายในห้อง
พื้นที่ห้องนอนจะแบ่งออกเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว ส่วนของห้องน้ำ และห้องนอน
ส่วนของห้องแต่งตัวจะมีพื้น Closet สำหรับประตูบานสไลด์ลายไม้ ไว้คอยปิดแยกสัดส่วนของห้อง (ถ้าใครอยากได้ต้องตกแต่งเพิ่มเองทางโครงการแสดงไว้เป็นตัวอย่าง)
ส่วนของห้องนอนจะได้รับแสงจากกระจกขนาดใหญ่ โดยมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดเพื่อระบายอากาศได้
พื้นที่ข้างเตียงนอนจะมีโต๊ะสำหรับทำงานไว้ให้ด้วย
พื้นที่ชั้นด้านข้างออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของห้องแต่งตัว หรือเป็นพื้นที่ชั้นสำหรับเก็บของก็ได้ โดยการออกแบบเน้นไปที่ความเรียบหรูในสไตล์โมเดิร์น
ส่วนของพื้นที่แต่งตัว มาพร้อมด้วยตู้เสื้อผ้า Built in
ห้องน้ำนั้นจะแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งโดยมีกระจกบานเปลือยกั้น
ห้องน้ำทั้งหมดนั้นใช้กระเบื้องเซรามิคสำหรับพื้นและผนัง สุขภัณฑ์ต่างๆเป็นของ Hafele ทั้งหมด
บทสรุปหลังเยี่ยมชมโครงการ
สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดในราคาที่จับต้องได้ “The Nest Sukhumvit 64” มาพร้อมมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแบบจัดเต็ม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์เหมาะทั้งอยู่เองหรือการปล่อยเช่า บนทำเล ซอยสุขุมวิท 64 ในแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ถนนศักยภาพที่สำคัญ มีสำนักงานและห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่มากมาย ยังคงเป็นพื้นที่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถเข้าสู่ CBD ได้เพียงไม่กี่นาที ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่นของซอยสุขุมวิท 64
อีกทั้งห้องพักออกแบบฟังก์ชันด้วยแนวคิด Perfection in Practical Living “ออกแบบเพื่อที่สุดของชีวิตที่ลงตัว” ที่ใส่ใจรายละเอียดต่อการใช้งานในพื้นที่ ทำให้เราไม่ต้องกังวลเมื่อเข้าไปอยู่จริง และภายในห้องให้วัสดุที่มีคุณภาพดี พร้อมการตกแต่งแบบ Fully Furnished ที่ไม่ต้องยุ่งยากเวลาเข้าอาศัย
สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://thenestproperty.co.th/ หรือติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook Page: The Nest Property หรือ โทร 089 999 5181 , 083 740 2299 , 02 611 2900