Sculptra เหมาะกับใคร? ต่างกับฉีดฟิลเลอร์อย่างไร?

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีผิวหน้าเต่งตึง เรียบเนียน อ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ Sculptra อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! เนื่องจาก Sculptra ไม่ใช่ฟิลเลอร์ธรรมดา แต่เป็นตัวช่วยเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังที่ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง อีกทั้งผลลัพธ์ยังสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปีด้วย!

Sculptra เหมาะกับใคร? และแตกต่างอย่างไรกับการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์? วันนี้เรารวบรวมทุกข้อสงสัยที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับ Sculptra มาฝากในบทความนี้แล้ว!

Sculptra คืออะไร?

Sculptra คือสารเติมเต็มใบหน้าประเภทหนึ่งที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป เนื่องจาก Sculptra เป็นหัตถการที่ไม่ได้เน้นการเติมเต็มร่องลึกโดยตรง แต่เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง จึงช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง เรียบเนียน และริ้วรอยดูตื้นขึ้นจากภายใน อีกทั้งผลลัพธ์ยังสามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี

Sculptra เหมาะกับใคร?

สำหรับใครที่อยากรู้ว่า Sculptra เหมาะกับใคร Sculptra เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนที่เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหนังดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
  • ผู้ที่มีปัญหารอยเหี่ยวย่น ผิวหน้าหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่มีเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังน้อย
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน
  • ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์บ่อย ๆ

Sculptra ต่างกับ Filler อย่างไร?

 

 SculptraFiller
กลไกการออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเติมเต็มร่องลึก
ผลลัพธ์ผิวหน้าเต่งตึง เรียบเนียน ริ้วรอยดูตื้นขึ้นร่องลึกดูเต็มขึ้น
ระยะเวลาการคงอยู่1.5 – 2 ปี6 – 12 เดือน
จำนวนครั้งในการฉีด2 – 3 ครั้ง ห่างกัน 4 – 6 สัปดาห์1 – 2 ครั้ง
ผลข้างเคียงอาการบวมแดง ช้ำ เขียวอาการบวมแดง ช้ำ เขียว อาการแพ้
ราคาประมาณ 30,000 – 60,000 บาทต่อครั้งประมาณ 15,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง

 Sculptra ฉีดได้กี่ครั้ง?

จำนวนครั้งในการฉีด Sculptra ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์

Sculptra ปลอดภัยหรือไม่?

Sculptra ได้รับการรับรองจาก อย. ว่าปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ผลข้างเคียงที่พบเจอส่วนใหญ่ไม่รุนแรง

ข้อควรระวัง

  • Sculptra ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรค SLE
  • Sculptra เป็นหัตถการที่อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวมแดง ช้ำ เขียว แต่โดยทั่วไปจะหายภายในระยะเวลา 3-5 วัน

หลังฉีด Sculptra ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

  • ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด เพื่อลดรอยช้ำ บวม เขียว
  • นวดคลึงบริเวณที่ฉีดเบา ๆไม่แนะนำให้สัมผัสแรงเพราะอาจเกิดอาการระบมได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เนื่องจากอาจทำให้สารไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่

 

ได้รู้กันไปแล้วว่า Sculptra เหมาะกับใคร และแตกต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร  อย่างไรก็ดีถึงแม้ Sculptra จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีราคาสูงกว่า Filler ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำหัตถการนี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหาและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมก่อน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เลือกหัตถการได้เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุดแล้ว

ความคิดเห็น