เครื่องซักผ้าฝาหน้า VS เครื่องซักผ้าฝาบน เลือกแบบไหนดี?
เครื่องซักผ้าฝาหน้า VS เครื่องซักผ้าฝาบน เลือกแบบไหนดี?
หนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับทำความสะอาดเสื้อผ้า คงจะหนีไม่พ้นเครื่องซักผ้า แต่ในการอยู่อาศัยไม่ว่าจะในบ้านหรือคอนโด เราควรเลือกใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนดีเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด หากใครที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแบบไหนดี ถึงจะตอบโจทย์การใช้งาน วันนี้เรามาข้อมูลควรรู้ของการซื้อเครื่องซักผ้ามาฝากกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือแบบฝาบน ล้วนมีข้อดีข้อดีที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความชอบของแต่ละคนด้วย
ดูที่การใช้งานเป็นหลัก
สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในบ้าน ที่มีสมาชิกในครอบครัว 4 – 5 คนขึ้นไป อาจมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ และสามารถซักเสื้อผ้าได้เยอะในทีละมากๆ เพราะฉะนั้นแล้วเครื่องซักผ้าฝาหน้าอาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่นัก เพราะโดยส่วนมากแล้วจะซักผ้าได้ในปริมาณไม่มาก การเลือกเครื่องซักผ้าแบบฝาบนอาจจะตอบโจทย์มากกว่า แต่ในทางกลับกันหากบ้านไหนที่อยู่กันไม่กี่คน หรืออาศัยอยู่ในคอนโด เครื่องซักผ้าฝาหน้าก็อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า เนื่องจากมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ครบจบ โดยบางรุ่นสามารถเลือกซักผ้าในแบบน้ำร้อนเพื่อการถนอมผ้า รวมถึงยังสามารถตั้งเวลาการซักได้อย่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของงานดีไซน์ที่สวยงาม ตอบโจทย์กับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน เพราะสามารถเข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์ แต่ทั้งนี้ในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้านั้น อาจจะต้องมาดูที่เครื่องซักผ้าเหล่านั้นสามารถตอบรับกับการใช้ชีวิตของเราได้มากน้อยขนาดไหน และเลือกเครื่องที่คุณคิดว่าจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากที่สุด ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน
อีกหนึ่งเรื่องที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนก็ตาม นั่นก็คือเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน
ว่าจะต้องตอบโจทย์กับเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านมากที่สุดหรือไม่ ยิ่งในปัจจุบันหลากหลายแบรนด์ดังได้ขยันนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาให้เครื่องซักผ้ามีความสะดวกและตอบโจทย์กับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการหมุนของเครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพในเรื่องของการช่วย ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ที่สามารถช่วยถนอมให้เนื้อผ้าที่คงสภาพดีเอาไว้ อีกทั้งหลายๆ แบรนด์ยังมาพร้อมกับการรับประกันที่ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งถือว่าสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคอย่างมาก เพราะสามารถเลือกเครื่องซักผ้าที่ถูกใจได้แบบครบจบ อีกทั้งยังไม่ต้องเป็นห่วงว่าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา จะไม่มีคนมารับผิดชอบในการซ่อมแซมให้อีกด้วย