พาชมคอนโด Kraam Sukhumvit26 คราม สุขุมวิท26 (Review-รีวิว)
KRAAM Sukhumvit26 (คราม สุขุมวิท26) คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ใจกลางสุขุมวิท 26 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ บนแนวคิด ‘Home-Like’ Condominium ที่ใส่ใจกับประโยชน์ใช้สอยของความเป็นบ้านในทุกรายละเอียด และการออกแบบแนวคิด Green living ในบรรยากาศร่มรื่นของอุโมงค์ต้นไม้ภายในสุขุมวิท26 และต้นหางนกยูงอายุกว่า100ปีภายในโครงการ
ประเภทโครงการ คอนโดมิเนียม สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
ที่ตั้งโครงการ สุขุมวิท26
เนื้อที่โครงการ 1 – 3 – 91 ไร่
จำนวนห้องพัก 126 ยูนิต
จำนวนยูนิต / ชั้น 6 – 8 ยูนิต
แบบห้องพัก
1 ห้องนอน พื้นที่ 61 ตร.ม.
2 ห้องนอน พื้นที่ 102 – 128.5 ตร.ม.
3 ห้องนอน พื้นที่ 185 – 188 ตร.ม.
เพนต์เฮาส์ 4 ห้องนอน พื้นที่ 228.5 ตร.ม.
ความสูงห้องพัก 3 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก
– ล็อบบี้
– สระว่ายน้ำอินฟินิตี้เอดจ์ (half-length Olympic)
– ฟิตเนส
– ห้องโยคะ
– ห้องสตีม
– ห้องสมุด
– พาวิลเลี่ยนพร้อมสวน
– Shuttle Service บริการรถรับส่งถึงสถานที่สำคัญใกล้โครงการ
– บริการส่วนตัวแบบ A La Carte
ระบบรักษาความปลอดภัย
โทรทัศน์วงจรปิด ระบบคีย์การ์ด พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
จำนวนที่จอดรถ 140% ของจำนวนยูนิต พร้อมพื้นที่เก็บของ
จำนวนลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร และลิฟท์บริการ 1 ตัว
เริ่มก่อสร้าง ประมาณไตรมาส 1 ปี 2560
คาดว่าจะแล้วเสร็จ ประมาณไตรมาส 3 ปี 2562
ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท (ประมาณ 275,000 บาท / ตร.ม.)
เปิดจองโครงการ 18-19 มิ.ย. 59
เจ้าของโครงการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด
ผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรม บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49)
ผู้ออกแบบตกแต่งภายใน บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด (PIA Interior)
ผู้ออกแบบภูมิทัศน์ บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด (P Landscape)
เบอร์โทรศัพท์ 02 661 2900
เว็บไซต์ http://www.NyeEstate.com/kraam
แผนที่โครงการ
เกี่ยวกับบริษัท NYE ESTATE (นายณ์ เอสเตท) ผู้พัฒนาโครงการ KRAAM Sukhumvit26
คุณอรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างความแตกต่าง การใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม (green living)
หลังจบการศึกษา คุณอรฤดีเริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นนักวิเคราะห์ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จากนั้นหันไปจับงานด้านการบริหารการลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมในกลุ่มการเงินการธนาคาร จนกระทั่งก้าวสู่การเป็นผู้ถือหุ้นและบริหาร บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) บริหารจัดการซื้อทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาทางการเงินแต่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และจุดสำคัญคือการก้าวเป็นเป็นผู้รับผิดชอบหลักของงานพัฒนาโครงการปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ (Park Ventures Ecoplex) อาคารสำนักงานระดับพรีเมียม จนในที่สุดได้ก้าวมาเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งอาณาจักรนายณ์ เอสเตท ในปี 2556
แม้ว่า นายณ์ เอสเตท ถือเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ของประเทศไทย แต่การสร้างเอกลักษณ์ผ่านผลงานการออกแบบและการก่อสร้าง บนทำเลที่น่าจับตามอง ทำให้ชื่อเสียงและผลงานของ นายณ์ เอสเตท ถูกกล่าวขานไม่แพ้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ด้วยโครงการบ้านแนวราบระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ได้แก่ พาร์คพรีว่า ย่านพระราม 9 และ อีก 3 โครงการในทำเลสุขุมวิท ภายใต้แนวคิด ควอเตอร์ คอลเล็คชั่น ประกอบด้วย โครงการบ้านแบบคลัสเตอร์โฮม 2 โครงการ ได้แก่ ควอเตอร์ 31 และ ควอเตอร์ 39 และ ควอเตอร์ ทองหล่อ โครงการบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน สำหรับกลุ่มไฮเอนด์ที่เน้นครอบครัวขยาย และ เฌอคูน ดีไซน์ทาวน์โฮมบนถนนราชพฤกษ์-สาทร ซึ่งทุกโครงการโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม การออกแบบที่คำนึงถึงฟังก์ชั่นประโยชน์ใช้สอย การใช้นวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงาน และแลนด์สเคปของพื้นที่สีเขียวที่ให้ร่มเงาและความร่มรื่น ซึ่งการันตีคุณภาพได้จากการที่โครงการพาร์คพรีว่า สามารถคว้ารางวัลใหญ่มาถึง 3 รางวัลจากงานประกวดอสังหาฯ ระดับโลก Asia Pacific Property Award 2016 – 2017 มาแล้ว
ภาพผลงานที่ผ่านมาของ NYE ESTATE (นายณ์ เอสเตท)
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการ KRAAM Sukhumvit26(คราม สุขุมวิท26)
โครงการ KRAAM Sukhumvit26(คราม สุขุมวิท26) ตั้งอยู่ภายใน สุขุมวิท26 ตรงบริเวณหัวมุมซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ โครงการอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 360 เมตร และอยู่ห่างจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ ประมาณ 500 เมตร สำหรับทำเลสุขุมวิท26 นี้ จะเป็นทำเลที่มีความร่มรื่นเหมาะแก่การพักอาศัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยระยะหลังๆจะไม่ค่อยมีโครงการใหม่เปิดตัวบนทำเลนี้ เนื่องจากหาที่ดินมาพัฒนาโครงการค่อนข้างยาก
ที่ตั้งของ KRAAM Sukhumvit26 อยู่ในทำเลศูนย์กลางย่านธุรกิจและช็อปปิ้งที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยสุขุมวิท 26 นั้น จะเป็นทำเลที่มีสีสัน ประกอบไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดี คอมมูนิตี้มอลล์ รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจากย่าน EM District แหล่งไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยสุขุมวิท26 นั้นสามารถเดินทางได้สะดวก ทั้ง BTS , MRT และทางด่วน อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งถนนสุขุมวิทและพระราม4 ซึ่งทำให้ สุขุมวิท26 เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ศักยภาพสูงที่น่าจับตาบนเส้นสุขุมวิท ที่มีความสมดุลของความเป็นย่านพักอาศัย และ ทำเลธุรกิจได้อย่างลงตัว แตกต่างจากทำเลอื่นๆของถนนสุขุมวิท
สถานที่สำคัญบริเวณสุขุมวิท26
1. Em District – ศูนย์รวมแหล่งไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ใจกลางสุขุมวิทที่พรั่งพร้อมครบครันตอบทุกไลฟ์สไตล์
2. K-Village – ช็อปปิ้งมอลล์แบบ Open Air บนเนื้อที่ 15 ไร่ใจกลางสุขุมวิท เพียบพร้อมด้วยร้านค้ากว่า 100 ร้าน แบ่งเป็นโซนแฟชั่น คาเฟ่แอนด์เรสเตอรองท์ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น และซูเปอร์มาร์เก็ต
3. A Square – ไลฟ์สไตล์สเปซที่พรั่งพร้อมด้วยร้านอาหาร ภัตตาคาร และบาร์หลากหลาย รวมทั้ง Flow House Bangkok สวรรค์ของคนรักการโต้คลื่น และ Yunomori Onsen & Spa บ่อน้ำแร่ร้อนแบบญี่ปุ่นแห่งแรกของไทย
4. The Barkyard – คอมมูนิตี้สำหรับคนรักสุนัขพื้นที่กว่า 2 ไร่ให้ พร้อมสนามหญ้าขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำสำหรับน้องหมา พร้อมร้านค้า คาเฟ่ และบูติค เพื่อความเพลิดเพลินในการช็อปและชิลล์ใน บรรยากาศร่มรื่น สบาย ๆ
5. Oneday I Pause and Forward – คาเฟ่ โคเวิร์คสเปซ โฮสเทล ในอาคารแนวลอฟต์สุดเท่เพื่อการใช้ชีวิตอย่างครบวงจรได้ทั้งวัน ประกอบด้วย คาซ่า ลาแปง คาเฟ่สุดฮิป โฮสเทล 31 ห้องที่ตกแต่งไม่เหมือนกันเลย และพื้นที่ทำงานสำหรับคนทำงานที่ต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว
ภาพสถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้เคียงสุขุมวิท26
สุขุมวิท 26 ยังเป็นศูนย์รวมของร้านอาหารอร่อย ที่ตั้งอยู่เรียงรายตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย มีร้านอาหารหลากหลายตั้งแต่ร้านอาหารที่ทานง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำร้านรุ่งเรือง ไปจนถึงร้านอาหารบรรยากาศดีๆ อาทิอาหารนานาชาติ ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย อิตาเลี่ยน ฯลฯ รวมทั้งมีคอมมูนิตี้มอลล์ อย่าง K VILLAGE และ A SQUARE เป็นต้น
ภาพบรรยากาศของร้านอาหารชื่อดังภายในสุขุมวิท26
บรรยากาศของทำเลสุขุมวิท26
ทีมงาน Kobkid.com เดินทางมายังโครงการ KRAAM Sukhumvit26 ด้วยรถไฟฟ้าBTS นั่งมาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ โดยสถานีนี้จะเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชั้นนำของไทย อย่าง ห้าง ดิเอ็มโพเรียม และ เอ็มควอเทียร์
ลงสถานีรถไฟฟ้าที่ทางออก4 ซึ่งจะเป็นทางออกที่อยู่ใกล้สุขุมวิท26 มากที่สุด
เดินตรงขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อมายังสุขุมวิท26 (ภาพบริเวณด้านหน้า สุขุมวิท26)
อาคารสำนักงาน Metropolis ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสุขุมวิท26
เข้ามาภายในสุขุมวิท26
บรรยากาศภายในสุขุมวิท26 โดยในทำเลนี้จะมีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาตลอดสองข้างทางปลูกเรียงรายตั้งแต่ต้นซอยไปจนถึงท้ายซอย
บรรยากาศภายในสุขุมวิท26 บริเวณด้านหน้าโครงการ KRAAM Sukhumvit26 จะเห็นเป็นอุโมงค์ต้นไม้เลย
ภาพสำนักงานขายที่เป็นตำแหน่งที่ตั้งโครงการ KRAAM Sukhumvit26
โครงการ KRAAM Sukhumvit26 จะอยู่ติดกับซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ
บรรยากาศภายในซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ จะเป็นซอยที่สงบและร่มรื่นเช่นเดียวกัน
บรรยากาศบริเวณที่ตั้งโครงการและอาคารข้างเคียง KRAAM Sukhumvit26
ด้านหน้าโครงการ KRAAM Sukhumvit26 จะอยู่ทางทิศตะวันตก ติดกับ สุขุมวิท26
ด้านทิศเหนือ จะอยู่ติดกับอาคารสูง 4 ชั้น และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
ด้านทิศตะวันออก จะอยู่ติดกับอาคารสูง 8 ชั้น
ด้านทิศใต้ จะอยู่ติดกับซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ และถัดไปจะเป็น KUSH คลับบาร์
อาคารคอนโดมิเนียมแบบตึกสูงที่อยู่เยื้องกับโครงการ
ภาพร้านอาหารและร้านคาเฟ่ที่อยู่ในระแวกโครงการถัดไป 2-3 ช่วงตึก
ภาพบรรยากาศโครงการ
รูปภาพตัวอาคาร KRAAM Sukhumvit26 ที่ออกแบบให้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ สูงจากพื้นจรดเพดานเพื่อรับแสงธรรมชาติ และมีแผงบังแดดเป็นแนวตั้ง (Vertical Facade Fin) ตลอดแนวด้านหน้าอาคาร เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด
ภาพด้านหน้าอาคาร ที่ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมดั้งเดิมของ สุขุมวิท 26 ได้อย่างกลมกลืน โดยยังเก็บรักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี และออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวไว้ที่บริเวณสวนหน้าโครงการเพื่อให้ความร่มรื่น
ภาพมุมสูงบนของโครงการ KRAAM Sukhumvit 26
ภาพสระว่ายน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้น 26
โมเดลโครงการ KRAAM Sukhumvit26
ฝั่งทางเข้าด้านหน้าอาคารจะอยู่ทางด้านทิศตะวันตก ติดกับ สุขุมวิท26 ส่วนฝั่งด้านทิศใต้จะอยู่ติดกับซอยท่านหญิงพวงรัตน์
พื้นที่สวนทางด้านหน้าโครงการ จะเก็บรักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี โดยจะออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่น เพื่อผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมดั้งเดิมของสุขุมวิท26 ได้อย่างกลมกลืน
ภาพอาคารฝั่งทางด้านทิศเหนือ
สระว่ายน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางบนชั้น 26
พื้นที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น B1-B2 และ ชั้น 2-9 ซึ่งทุกห้องจะได้รับที่จอดรถแบบ Fixed ตำแหน่ง ภายในโครงการจะมีช่องจอดรถถึง 140% ของยูนิตห้องพัก พร้อมให้พื้นที่เก็บของส่วนตัวทุกยูนิต
แนวคิดเด่นในโครงการ KRAAM Sukhumvit 26
Green Living – โดยยังคงรักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี และพื้นที่สีเขียวไว้ที่บริเวณสนามหญ้าและสวนหน้าโครงการเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่น และการออกแบบห้องพักให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย อาทิ
• หน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน (Full Height Window) เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
• กระจกหน้าต่างกั้นความร้อนสามชั้น (Triple Glazed Window) เพื่อดูดซับเสียงและกันความร้อน
• แผงบังแดดแนวตั้ง (Vertical Facade Fin) ตลอดแนวด้านหน้าอาคารเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด
• ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัว และให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี
• การออกแบบเพื่อการใช้ประโยชน์จากพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
‘Home-Like’ Condominium – ให้ความใส่ใจกับประโยชน์ใช้สอยของความเป็นบ้านในทุกรายละเอียด ด้วยห้องและพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่
• จำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 6 – 8 ยูนิต เพื่อความเป็นส่วนตัว
• พื้นที่อเนกประสงค์ภายนอก (Yard Area) ในทุกยูนิตสำหรับการซักล้างและการถ่ายเทอากาศที่ดี
• การตกแต่งภายในใช้วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม เช่น ชุดเครื่องครัว Gaggenau
ต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี ที่ทางโครงการเก็บรักษาไว้เป็นจุดขายโครงการ
ภายในห้องพักจะใช้กระจกหน้าต่างแบบกั้นความร้อนสามชั้น (Triple Glazed Window) เพื่อดูดซับเสียงจากภายนอกและช่วยกันความร้อน
ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัว และให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี
ผังโครงการ Kraam Sukhumvit26
ผังชั้นล่าง
ด้านหน้าโครงการจะอยู่ทางทิศตะวันตกติดกับ สุขุมวิท26 โดยจะออกแบบให้ด้านหน้าเป็นพื้นที่สวนเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่น ซึ่งทางโครงการเก็บรักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปีเอาไว้ และถัดเข้าไปจะเป็นส่วน Lobby ขนาดใหญ่ ที่ภายในออกแบบให้สามารถมองเห็นวิวของสวนและต้นหางนกยูงที่อยู่ทางด้านหน้า และ ทางโครงการยังมีบริการส่วนตัวระดับพรีเมี่ยม แบบ A la carte เช่น Grocery shopping service , Laundry and Cleaning service cartering เป็นต้น
ส่วนของห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป โดยในแต่ละ Floor จะมียูนิตที่น้อยแค่ 6-8 ยูนิตต่อชั้น โดยผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัวและให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี ภายในอาคารจะมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว
ผังอาคาร ชั้น 19-25
ผังอาคาร ชั้น 26
ในชั้นนี้ จะเป็นชั้นสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ได้แก่สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนสและโยคะ ส่วนห้อง Penthouse จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก
ผังอาคาร ชั้น 27-28
ในชั้นนี้จะมี 4 ยูนิตต่อชั้น
ผังอาคาร ชั้น 29
ในชั้นบนสุดนี้จะมี 3 ยูนิต โดยห้อง Penthouse จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก
ตัวอย่างแบบห้องพัก
การออกแบบพื้นที่การใช้งาน อยู่ภายใต้แนวคิด Home-Like Condominium ที่มีการจัดวาง Layout ได้อย่างลงตัว
1 ห้องนอน TYPE B
เข้ามาด้านหน้าจะเป็นส่วน Pantry โดยมี มีเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L และมีความพิเศษคือให้ Island ทำให้มีพื้นที่ในการทำครัวมากขึ้น ซึ่งโครงการอื่นส่วนใหญ่ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะไม่ค่อยให้กัน ถัดเข้าไปจะเป็นส่วน Living ห้องนอนและห้องน้ำจะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน โดยห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำให้ ส่วนการแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งจะใช้บานสไลด์เลื่อนสลับเปิด-ปิดกั้น ซึ่งการเปิด-ปิดแบบนี้ ปกติทำในเฉพาะโรงแรมเท่านั้น ซึ่งช่วยทำให้ประหยัดเนื้อที่ได้มาก ส่วนภายในห้องได้ออกแบบตู้ Built-In Storage ให้สามารถเก็บของได้เยอะเป็นพิเศษ และจุดเด่นอีกอย่าง คือ พื้นที่ Yard area จะอยู่ติดกับโถงด้านหน้า พื้นที่นี้จะใช้เป็นพื้นที่สำหรับการซักล้างและช่วยในการถ่ายเทอากาศที่ดี (พื้นที่ขายส่วน Yard area จะคำนวณถึงแค่แนวรั้วระเบียง ส่วนที่เหลือทางโครงการจะเป็นพื้นที่แถมให้)
2 ห้องนอน TYPE B
เข้ามาด้านหน้าจะเป็นส่วน Pantry ขนาดใหญ่ มีเคาน์เตอร์ยาว Built-In ตลอดผนังทั้ง 2 ฝั่งและมี Island สำหรับเตรียมอาหาร ตรงพื้นที่ Pantry สามารถใช้เป็นพื้นที่ทานอาหารได้ด้วย ถัดเข้าไปจะเป็นส่วน Living ออกแบบให้มีขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวในการทำกิจกรรมร่วมกัน ตรงมุมห้องจะเป็นพื้นที่ทำงาน ผนังภายนอกของส่วน Living จะเป็นกระจกสูงและกว้างตลอดความยาวห้อง ช่วยสามารถเปิดเห็นวิวได้เต็มที่ ส่วนห้องนอน Master และ ห้องนอน 2 จะอยู่ในปีกทั้ง 2 ข้าง ภายในห้องนอน Master ตรงผนังภายนอกจะเป็นผนังกระจกใสสูงและกว้างตลอดความยาวของห้อง ช่วยเปิดรับวิวได้ดี และในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-In ขนาดใหญ่เตรียมไว้ให้ ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอน Master จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย และบริเวณหน้าห้องนอน Master จะมีพื้นที่ Storage ออกแบบเป็นลักษณะตู้ Built-In มีลักษณะเป็นตู้ซ่อนช่วยให้สามารถเก็บของได้เยอะเป็นพิเศษ ส่วนพื้นที่ Yard area จะอยู่ติดกับส่วนนั่งเล่น พื้นที่นี้จะใช้เป็นพื้นที่สำหรับการซักล้างและช่วยในการถ่ายเทอากาศที่ดี (พื้นที่ขายส่วน Yard area จะคำนวณถึงแค่แนวรั้วระเบียง ส่วนที่เหลือทางโครงการจะเป็นพื้นที่แถมให้)
ภาพบรรยากาศสำนักงานขายโครงการ Kraam Sukhumvit26
ป้ายหน้าโครงการ
ภายในสำนักงานขายโครงการ
พาชมห้องตัวอย่าง แบบ 1 ห้องนอน TYPE B ขนาด 61 ตร.ม.
ห้อง TYPE นี้ จะเป็นห้องที่มีขนาดเริ่มต้นของโครงการ Kraam Sukhumvit26 ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 61 ตร.ม. ที่ทางโครงการได้ออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่าห้องแบบ 1 ห้องนอนของคอนโดอื่นๆในระดับเดียวกัน ด้วยแนวคิด Home-Like Condominum คือ จะให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่อึดอัด โดยจะออกแบบให้มีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ เพราะเป็นห้องที่ใช้เวลาอยู่กับมันนานที่สุดในแต่ละวัน และจุดเด่นที่มีพื้นที่ลานอเนกประสงค์ หรือ Yard area สามารถช่วยถ่ายเทอากาศได้ดีโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ พร้อมกับมีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ภายในห้อง โดยออกแบบเป็นลักษณะตู้ Built-In อาทิ ตู้รองเท้า และตู้เก็บของบริเวณห้องครัว โดยมีลักษณเป็นตู้ซ่อน เพื่อความเรียบร้อยสวยงาม
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เคลือบผิวเงา สูง 2.7 เมตร ให้มือจับเป็นกลอนประตูดิจิตอลของ Samsung
เข้ามาภายในห้อง โดยห้องที่ขายจะเป็นห้องแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ในพื้นที่ส่วนครัว ตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บของอื่นๆภายในห้อง โดยห้องพักมีความสูงเพดาน ถึง 3 เมตร ในพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ส่วนห้องครัวและห้องน้ำจะมีความสูง 2.7 เมตร
ด้านหน้าสุดของห้องติดทางเข้า จะเป็นพื้นที่ครัว ให้เฟอร์นิเจอร์ครัว Built-in รูปตัว L และมีโต๊ะ Island ไว้สำหรับเตรียมอาหาร
ตู้เก็บของแบบ Built-in ที่อยู่ติดประตูทางเข้า สามารถใช้เก็บของได้สะดวกสำหรับการใช้งานจริง
อ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้า แบบฝังพื้น 2 หัว ของ GAGGENAU
ด้านล่างเตาไฟฟ้าเป็นไมโครเวฟฝังของ GAGGENAU เช่นกัน และด้านข้างอ่างล้างจานจะเป็นตู้เย็นแบบ Built-in ของ Siemens
ตู้เก็บของแบบ Built-in และตรงโต๊ะ Island วัสดุผิวเป็น compressed marble สีน้ำตาล ด้านล่างจะเป็นที่เก็บจานชาม มีบานเปิดเป็นแบบ Soft closed โดยตู้เก็บของทั้งหมดจะออกแบบให้สามารถใช้เก็บของได้สะดวกในการใช้งานจริง อย่างช่องเก็บของที่มีทั้งแบบประตูปิด หรือ แบบลิ้นชัก รวมทั้งพื้นที่ช่องวางของที่ไม่มีบานปิด สำหรับเวลาต้องการหยิบใช้ได้ง่าย เช่น เครื่องทำกาแฟ หรือ วางเครื่องดื่ม เป็นต้น
ที่มุมโต๊ะ Island จะมีเต้าเสียบไฟ แบบสามารถกดลงเพื่อเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน
ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่ออกแบบมาให้ค่อนข้างกว้างไว้สำหรับนั่งทำกิจกรรม นั่งทำงาน หรือดูทีวี
บานกระจกหน้าต่างภายในห้องจะมีความสูงจรดเพดาน โดยเป็นกระจกกั้นความร้อนสามชั้น (Triple Glazed Window) ที่สามารถช่วยดูดซับเสียงและกันความร้อนได้ดี และตรงระเบียงจะมีประตูบานเลื่อนเพื่อออกไปชมวิวภายนอก โดยมีราวระเบียงเป็นกระจกใส
มองย้อนไปที่ประตูทางเข้า โดยภายในห้องพักจะให้แอร์ Split type เป็นแบบฝังซ่อนฝ้า จำนวน 2 เครื่อง
ประตูบานเลื่อนกระจกเพื่อไปยังส่วน Yard Area และ สวิตซ์ไฟภายในห้อง
พื้นที่ส่วน Yard Area ที่เป็นอีกหนึ่งจุดขายของโครงการนี้ โดยพื้นที่นี้สามารถใช้เป็นช่องรับลมเข้าสู่ตัวห้องได้อีกทางหนึ่ง ทำให้มีการระบายอากาศที่ดีโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ และรั้วระเบียงสามารถเปิดออกได้ ทำให้พื้นที่นี้สามารถใช้ตากผ้าหรือทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามใจ จุดเด่นอีกอย่างคือ มีความเป็นส่วนตัวแตกต่างจากโครงการอื่นคือมีลักษณะ “no share common walls” ผนังจะไม่ติดกันกับห้องอื่น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และลดเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียง ส่วนพื้นที่ขาย ทางโครงการคำนวณพื้นที่แค่แนวรั้วระเบียงเท่านั้น พื้นที่เหลือหลังจากแนวรั้วจะเป็นพื้นที่ทางโครงการแถมให้
บริเวณ Yard Area มองย้อนเข้ามา โดยพื้นที่นี้ทางโครงการจะให้ตู้ Built-In ขนาดใหญ่สำหรับเก็บของสูงจรดเพดาน รวมทั้งเป็นจุดที่วางเครื่องซักผ้าอีกด้วย
ทางเข้าไปห้องนอน
เข้ามาภายในห้องนอน พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาด King-Size ได้ไม่อึดอัด ส่วนหน้าต่างในห้องนอนจะเป็นกระจกใส ความสูงจรดเพดาน
บริเวณหน้าต่าง จะมีการ Drop ฝ้า เพื่อซ่อนรางผ้าม่านให้ด้วย
บริเวณห้องนอนมองไปยังพื้นที่แต่งตัว โดยภายในห้องนอน แอร์จะซ่อนใต้ฝ้าเช่นกัน
พื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำ จะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in เข้ามุมรูปตัว L สูงจรดเพดาน (ตู้เสื้อผ้าจริงที่ให้จะเป็นบานปิดทึบ) และถัดไปจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ติดกัน
ในห้องน้ำจะตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน พร้อมเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบฝังด้านใต้อ่างเป็นตู้บานเปิดสามารถเก็บของได้ ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่ช่วยให้ดูกว้างขึ้น และมีระบบเครื่องทำน้ำร้อน โดยภายในห้องน้ำให้ชุดสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำและก๊อกน้ำ ของ TOTO ทั้งหมด และโดยวัสดุพื้นและผนังห้องน้ำทั้งหมด เป็น Porcelain Mable Tile เก็บขอบด้วยอลูมิเนียม
อ่างอาบน้ำจะวางอยู่ในตำแหน่งพื้นที่ส่วนแห้ง
พื้นที่อีกฝากจะเป็นสว่นห้องอาบน้ำ และ ห้องโถสุขภัณฑ์ กั้นด้วยผนังทึบ โดยมีกระจกบานสไลด์ใช้เปิด-ปิด สลับการใช้งาน ซึ่งข้อดีของบานสไลด์แบบนี้ คือ จะช่วยให้ประหยัดเนื้อที่มากกว่า
ภายในห้องอาบน้ำ จะให้ทั้ง Rain shower และ Shower โดยก๊อกน้ำจะเป็นระบบควบคุมอุณหภูมิตามความต้องการของผู้ใช้งาน
พาชมห้องตัวอย่าง แบบ 2 ห้องนอน TYPE B ขนาด 111 ตร.ม.
สำหรับห้อง TYPE นี้ การวางตำแหน่งภายในห้อง ด้านหน้าสุดจะเป็นส่วน Pantry ขนาดใหญ่ มี Island สำหรับเตรียมอาหาร และโต๊ะทานอาหาร ถัดเข้าไปจะเป็นส่วน Living ห้องนอนและห้องน้ำจะอยู่ในปีกทั้ง 2 ข้าง โดยห้องน้ำภายในห้องนอน Master จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ส่วนพื้นที่ Yard area จะอยู่ติดกับโถงด้านหน้า มีตู้ซ่อนเก็บของตรงหน้าประตู Yard area
ประตูทางเข้าห้องพัก
พื้นที่ส่วน Pantry ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าห้องพัก ตรงการห้องมี Island และด้านข้างเป็นตำแหน่งวางโต๊ะทานอาหาร
ชุดครัวแบบ Built-in ขนาดใหญ่แบบติดผนังทั้ง 2 ฝั่ง มีความสูงจรดเพดาน โดยออกแบบให้เป็นตู้ที่สามารถเก็บของและใช้งานได้จริง
อ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้า แบบฝังพื้น 4 หัว พร้อมที่ดูดควัน ของ GAGGENAU
ฝั่งตรงข้าม จะเป็นตู้ Built-in เต็มผนัง เช่นเดียวกัน เป็นตำแหน่งวางตู้เย็นแบบซ่อน และไมโครเวฟแบบฝัง และชั้นเปิดโล่งด้านซ้ายมือ เป็นตำแหน่งสำหรับวางเครื่องดื่มหรื่องตั้งเครื่องชงกาแฟได้ ส่วนเคาน์เตอร์ Island ที่มุมจะมีเต้าเสียบไฟ แบบสามารถกดลงเพื่อเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน
ตู้เย็นบานคู่แบบ Built-in ของ Siemens และ เตาไมโครเวฟแบบฝัง ของGAGGENAU
บริเวณด้านข้างเตาไฟฟ้า และ อ่างล้างจาน จะเป็นชั้นเก็บของแนวตั้งแบบซ่อน โดยจะเป็นบานปิดแบบ Soft closed ทั้งหมด
บริเวณ Pantry มองย้อนไปที่ประตูทางเข้า
ผนังที่ติดประตูทางเข้า จะเป็นตู้ Built-in สูงจรดเพดาน ใช้สำหรับเก็บของและวางรองเท้า โดย 2 บานกลางจะเป็นตู้กระจกเปิด-ปิดได้สำหรับไว้เก็บของ
ถัดจาก Pantry ก็จะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่สำหรับใช้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ในห้องมีเพดานสูงโปร่ง 3 เมตร โดยหน้าต่างจะเป็นกระจกบานกว้าง มีความสูงและความยาวเต็มผนังห้องโดยพื้นที่ระเบียงก็จะอยู่ติดกัน พร้อมมี yard area อยู่ตรงข้ามระเบียง ทำให้เปิดรับลมเข้ามาได้ ช่วยทำให้อากาศถ่ายเท ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
พื้นที่นั่งเล่น ที่ออกแบบมาให้กว้างขวางไว้สำหรับนั่งทำกิจกรรมในครอบครัว นั่งทำงาน หรือดูทีวี
บานกระจกหน้าต่างจะมีความสูงจรดเพดาน โดยเป็นกระจกกั้นความร้อนสามชั้น (Triple Glazed Window) ที่สามารถช่วยดูดซับเสียงและกันความร้อนได้ดี และตรงระเบียงจะมีประตูบานเลื่อนเพื่อออกไปชมวิวภายนอก โดยมีราวระเบียงเป็นกระจกใส
พื้นที่ระเบียง โดยบริเวณหน้าต่าง จะมีการ Drop ฝ้า เพื่อซ่อนรางผ้าม่านให้ด้วย
จากบริเวณห้องนั่งเล่น มองย้อนไปที่ประตูทางเข้า มองเห็นประตูบานเลื่อนที่ไปยังส่วน Yard area
ตรงตำแหน่งข้างประตูบานเลื่อน Yard area จะมีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่แบบมีบานปิดซ่อนไว้ ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานจริงเหมือนเวลาอยู่บ้าน เพราะเวลาอยู่กันหลายคนจะมีของค่อนข้างเยอะควรมีที่เก็บให้ดูเรียบร้อย
ประตูบานเลื่อนไปส่วน Yard area ที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ โดยพื้นที่ส่วนนี้จะออกแบบให้มีลักษณะ “no share common walls” ของแต่ละยูนิต ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และลดเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียง
ในส่วน Yard area จะมีตู้ Built-in ขนาดใหญ่สำหรับเก็บของสูงจรดเพดาน รวมทั้งเป็นจุดที่วางเครื่องซักผ้า เช่นกัน
ออกมายังส่วนนั่งเล่น เพื่อไปดูห้องนอน Master ที่อยู่ติดกัน
เข้ามาภายในห้องนอน Master โดยห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าสุด ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนแต่งตัว และเตียงนอนจะอยู่ด้านในสุด
เข้ามาภายในห้องนอน พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาด King-Size ได้สบายไม่อึดอัด ปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งวางโต๊ะทีวี ส่วนหน้าต่างในห้องนอนจะเป็นกระจกใส ความสูงจรดเพดาน
บริเวณห้องนอนมองไปยังพื้นที่แต่งตัว โดยภายในห้องนอน แอร์จะซ่อนใต้ฝ้าเช่นกัน
บริเวณห้องนอนมองไปยังพื้นที่แต่งตัว โดยภายในห้องนอน แอร์จะซ่อนใต้ฝ้าเช่นกัน
ห้องน้ำภายในภายในห้องนอน Master จะตกแต่งด้วย Porcelain Mable Tile สีอ่อน ด้านในติดหน้าต่างจะเป็นตำแหน่งวางอ่างอาบน้ำ โดยจะมีหน้าต่างกระจกใสบานสูงจรดเพดานเพื่อรับวิว ส่วนด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศ แต่เวลาอยู่อาศัยจริง อาจติดม่านเกล็ดเพื่อความเป็นส่วนตัว
เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบฝังด้านใต้อ่างเป็นตู้บานเปิดสามารถเก็บของได้ ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่ และมีระบบเครื่องทำน้ำร้อน โดยภายในห้องน้ำให้ชุดสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำและก๊อกน้ำ ของ TOTO ทั้งหมด และโดยวัสดุพื้นและผนังห้องน้ำทั้งหมด เป็น Porcelain Mable Tile เก็บขอบด้วยอลูมิเนียม
ภายในห้องอาบน้ำ จะให้ทั้ง Rain shower และ Shower โดยก๊อกน้ำจะเป็นระบบควบคุมอุณหภูมิตามความต้องการของผู้ใช้งาน
ออกจากห้องนอนMaster เพื่อไปยังห้องนอนที่สอง
เข้ามาภายในห้องนอนที่สอง ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่แต่งตัว ส่วนเตียงนอนจะอยู่ด้านใน
ภายในห้องนอนที่สอง
ภายในห้องมองย้อนไปที่ประตูทางเข้า
ห้องน้ำด้านหน้าห้องนอนที่สอง จะตกแต่งตามที่แสดงในภาพ และให้อุปกรณ์ของ TOTO เช่นกัน
บทสรุปหลังเยี่ยมชมโครงการ
KRAAM Sukhumvit26 (คราม สุขุมวิท26) โดย บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ที่เป็นอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นของปีนี้ ด้วยทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ใจกลางสุขุมวิทย่านธุรกิจการค้า ใกล้ THE EM DISTRICT และ BTS พร้อมพงษ์ โดย สุขุมวิท26 นี้ เป็นทำเลที่สามารถเดินทางสะดวกจากถนนสุขุมวิทและถนนพระราม4 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังเป็นทำเลที่มีความร่มรื่นเหมาะแก่การพักอาศัย ซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษแตกต่างจากทำเลอื่นๆบนถนนสุขุมวิท และในระยะหลังๆภายใน สุขุมวิท26 จะไม่ค่อยมีโครงการใหม่เปิดตัวในรอบหลายปี เนื่องจากหาที่ดินมาพัฒนาโครงการค่อนข้างยาก ส่วนโครงการ KRAAM Sukhumvit26 ก็นับว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ โครงการใหม่ และโครงการเดียวบนทำเล สุขุมวิท26
ส่วนด้านตัวโครงการ KRAAM Sukhumvit26 สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยแนวคิดในการออกแบบ Green Living – เน้นความเป็นธรรมชาติและความร่มรื่นให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย และไม่ทำลายบรรยากาศของชุมชนเดิม โดยยังคงรักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี และ ใส่ใจในทุกรายละเอียดกับแนวคิด ‘Home-Like’ Condominium ที่ใส่ใจกับประโยชน์ใช้สอยของความเป็นบ้านในทุกรายละเอียด มีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย และ ภายในใช้วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม อีกทั้งยังมีจุดขายโครงการที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ เช่น
– หน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน (Full Height Window) เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
– กระจกหน้าต่างกั้นความร้อนสามชั้น (Triple Glazed Window) เพื่อดูดซับเสียงและกันความร้อน
– แผงบังแดดแนวตั้ง (Vertical Facade Fin) ตลอดแนวด้านหน้าอาคารเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด
– ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัว และให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี
– พื้นที่อเนกประสงค์ภายนอก (Yard Area) ในทุกยูนิตสำหรับการซักล้างและการถ่ายเทอากาศที่ดี
– ที่จอดรถแบบ Fix 140% พร้อมพื้นที่เก็บของส่วนตัว เป็นต้น
สำหรับโครงการ KRAAM Sukhumvit26 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15 ล้านบาท
สุดท้ายนี้ นับได้ว่า KRAAM Sukhumvit26 (คราม สุขุมวิท26) เป็นโครงการระดับคุณภาพที่มีครบทั้งทำเลที่ตั้งที่ดี การออกแบบโครงการและตัวคุณภาพสิ้นค้าที่ดีเยียม ซึ่งสามารถไปชมโครงการและบรรยากาศจริงได้ที่ Sales Gallery บน สุขุมวิท26
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.NyeEstate.com/kraam หรือ โทร. 02 661 2900