วงการยาต้องสั่นสะเทือนด้วย “PharmaSafe” แอปพลิเคชันที่จะทำให้ชีวิตของคุณ ง่ายขึ้น
เมื่อทุกวงการกำลังตื่นตัวกับยุคดิจิตอลอย่างเต็มกำลัง วงการสุขภาพเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อ Startup ก่อกำเนิดแอปพลิเคชัน “PharmaSafe” ที่จะช่วยให้ชีวิตของผู้ป่วยง่ายขึ้น โดยเฉพาะการใช้ยา จะมีการแจ้งเตือนการทานยา และประวัติการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง สะดวกทั้งผู้ป่วยสบายใจทั้งคุณหมอที่จะได้รับประวัติการใช้ยาอย่างถูกต้อง
“PharmaSafe” แอปพลิเคชันใหม่ที่จะเข้ามาดูแลทุกการใช้ยาของทุกคน ก่อตั้งขึ้นโดย “จักร โกศัลยวัตร” ได้กล่าวว่า Pharmasafe คือ ชุมชนการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยเป็นระบบที่เชื่อมต่อข้อมูลกับทางโรงพยาบาล เพื่อแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟนให้ผู้ป่วยทานยาได้ถูกต้องตามเวลา มีการแสดงรูปของยา ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ป่วย ให้รับประทานยาได้ตรงตามเวลาและลดการผิดพลาดในการหยิบยาได้
คุณสมบัติของแอปพลิเคชัน คือ สามารถเก็บข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับยา ส่งข้อมูลยาและเอกสารกำกับยาทางมือถือทันทีที่ได้รับการจ่ายยาจากโรงพยาบาล ทำให้มีข้อมูลยาที่ใช้ติดตัวทุกที่ทุกเวลา บันทึกประวัติการแพ้ยาและยาที่มีผลข้างเคียง เสมือนมีบัตรยาอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจสอบยาที่ได้รับว่าถูกต้องหรือไม่ แสดงยอดยาคงเหลือ ยอดยาปัจจุบัน มีการเก็บประวัติการใช้ยาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ในส่วนของเอกสารกำกับยา มีประโยชน์ คือ จะบอกขนาดและวิธีการใช้ยาที่เหมาะสม บอกข้อห้ามและข้อระวังในการใช้ยา บอกวิธีปฏิบัติเมื่อทานยาเกินขนาดหรือทานยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร หรือถ้าลืมทานยาจะเป็นอย่างไร ถ้าเกิดอาการหรือผลข้างเคียงจากยา ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ และบอกวิธีเก็บรักษายา
โดยการทำงานของแอปพลิเคชัน เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลแล้ว ระบบจะมีการส่งข้อมูลแบบอัตโนมัติจากโรงพยาบาลมาถึงผู้ป่วย ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาใช้ระบบจะต้องเป็นลูกค้าที่ใช้บริการกับโรงพยาบาลที่ร่วมมือกับ “PharmaSafe” ซึ่งเป็นระบบที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย และได้มีการทดลองกับโรงพยาบาลค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา เป็นแห่งแรก มีผลการตอบรับที่น่าพึงพอใจ
สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้ใช้บริการกับโรงพยาบาลที่ร่วมมือกับ PharmaSafe ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งใช้บริการแอปพลิเคชันได้ทั้งเก็บข้อมูลการใช้ยาและถ่ายรูปยาของตัวเองไว้เพื่อตั้งเวลา และจะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ
จักร โกศัลยวัตร กล่าวต่อว่า การพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าว มีความสำคัญต่อทั้งประเทศไทยและในต่างประเทศ เพราะจากข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาลพบว่างบของกระทรวงสาธารณสุขในแต่ละปีจะอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท และประมาณ 1 แสนล้านบาทจะเป็นงบด้านยา ซึ่งแต่ละปี จะมีการใช้ยาผิดคิดเป็นสัดส่วน 40% หรือเป็นวงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท/ปี จากการใช่ยาผิดประเภท เป็นอีกสาเหตุของปัญหาที่ทำให้ประเทศไทยเกิดผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลและงบประมาณไม่คุ้มค่า”
องค์การอนามัยโลก หรือ WTO ได้ประกาศแคมเปญรณรงค์การใช้ยาผิดประเภทที่ต้องการให้ลดลงครึ่งหนึ่ง ภายใน 5 ปีข้างหน้า ในสหรัฐ มีข้อมูลพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากการทานยาผิดประเภทวันละ 1 คน ดังนั้นเรื่องยา จึงไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย แต่เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก
จักร โกศัลยวัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาของผู้ป่วยคือ เมื่อได้ยากลับมาที่บ้านแล้ว ต้องดูแลตัวเอง ทานยาเอง อาจทานยาผิดเวลาหรือทานยาผิดประเภท เกิดเป็นปัญหาตามมาได้
กลุ่มลูกค้าจะเน้นขยายความร่วมมือกับกรมการแพทย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีโรงพยาบาลในสังกัดรวม 30 แห่ง เป็นโรงพยาบาลที่มีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของโรงพยาบาลและผู้ป่วย รวมถึงลูกค้าผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ส่วนในประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ aging society จึงนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ
PharmaSafe ถือเป็น Startup Health Tech ที่แตกต่างจาก Startup อื่นๆ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐ กฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ ตลอดจนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่ต้องดูแลและรับผิดชอบชีวิตของคน
สำหรับการก้าวเข้ามาทำ Startup PharmaSafe ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจที่ต้องการสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อคนในสังคม รวมถึงยังมาจากคุณพ่อที่ประสบปัญหาเส้นเลือกสมองตีบเฉียบพลัน ส่งผลทำให้พูดไม่ได้ โดยเมื่อไปพบคุณหมอก็ถามว่า คุณพ่อทานยาและแพ้ยาอะไรบ้าง ข้อมูลของยาและทานยาสำคัญ ทำให้สนใจที่จะสร้างระบบขึ้นมาช่วยและแก้ไขปัญหา สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ในโรงพยาบาลมาเชื่อมต่อกับผู้ป่วย ทั้งตัวผู้ป่วยและครอบครัวเองสามารถทราบข้อมูลได้สะดวก ละเอียดและรวดเร็ว
โดยปัจจุบันมี Startup Health Tech ในประเทศ 42 บริษัท และอยู่ในระหว่างการจัดตั้งเป็น Thai Health Tech Association ซึ่งตนเองถูกเสนอชื่อจากทุกคนให้เป็นนายกสมาคมคนแรกและจะประกาศในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ PharmaSafe ได้วางแผนว่า ภายในปี 2561 จะมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวมประมาณ 2 แสนราย และภายในเวลา 1-2 ปี จะเป็นผู้นำระบบขนส่งข้อมูล ดูแลการใช้ยาของผู้ป่วย และจะเป็นแอปพลิเคชันแนะนำการใช้ยาที่ดีที่สุดของประเทศ รวมถึงระยะยาวจะผลักดันการขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนได้
ถือเป็นแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการอย่างมหาศาล แอปพลิเคชันนี้จะช่วยปฏิวัติวงการยา ให้สะดวก สบายและง่ายกว่าที่เคย ไม่ใช่แค่ผู้ใช้ที่สะดวกสบาย แต่แพทย์เองก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นผลดีร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และเป็นแอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อชีวิตและสุขภาพของมนุษย์อย่างมาก
ที่มา : posttoday.com