มั่นคง เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2565 รายได้รวม 479 ล้านบาท เปิดแผนรุก เดินหน้าเร่งขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าและธุรกิจเวลเนส
มั่นคง เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2565 รายได้รวม 479 ล้านบาท เปิดแผนรุก เดินหน้าเร่งขยายธุรกิ จโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ าและธุรกิจเวลเนส
มั่นคง เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2565 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) สรุปรายได้จากการขายและบริการสุทธิ 479.48 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 109.38 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย 322.97 ล้านบาท และธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ (Recurring Income) รวม 124.84 ล้านบาท พร้อมกางแผนเดินหน้ารุกธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าและธุรกิจด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของกระแสโลก สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมอย่างโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ ทำให้ปัจจุบันมีอัตราการเช่า (Occupancy rate) สูงถึง 94 % สำหรับธุรกิจด้านสุขภาพ บริษัทมั่นคงได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เพื่อพัฒนาธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพเต็มรูปแบบครอบคลุมครบทุกมิติ ตั้งแต่ในด้านส่งเสริม (Enhancement), ป้องกัน (Prevention), รักษา (Cure) และฟื้นฟู (Restoration) ตามแผนการดำเนินงานและทิศทางของบริษัทฯ เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้และการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง สอดรับกับจุดแข็งประเทศไทยในด้านการดูแลสุขภาพและการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากการจัดอันดับ International Healthcare Research Center ในปี 2563-2564 ว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอันดับ 5 ของโลก

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสนี้แม้จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังนัก แต่จะเห็นได้ว่าในไตรมาสนี้ ศักยภาพการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ได้เดินหน้าเปิดเกมรุกผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล โดยในด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้วางแผนขยายอาณาจักรบน 3 ทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ สู่ 6 โครงการ ตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่เช่าแตะ 1,000,000 ตารางเมตร ทุ่มงบปีละกว่า 1,500 ล้านบาท พร้อมเตรียมขายทรัพย์สินส่วนหนึ่งในโครงการ BFTZ 2 และ 3 มูลค่า 1,800 ล้านบาท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT REIT) ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้ประมาณ 20%

นอกจากนี้ในด้านของ ธุรกิจสุ ขภาพ จากความสำเร็จในการพัฒนา โครงการรักษ เวลเนส บางกะเจ้า ที่มุ่งพัฒนาให้ เป็น World class medical wellness destination ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี จากลูกค้าภายในประเทศ สำหรับช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษั ทฯ วางกลยุทธ์รุกตลาดต่างชาติมากขึ้ น สอดรับกับนโยบายการเปิ ดประเทศของภาครัฐเพื่อขับเคลื่ อนเศษฐกิจและการท่องเที่ยว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนต่อยอดพัฒนาธุรกิจสุ ขภาพ โดยทางมั่นคงได้จัดตั้งบริษัทร่ วมทุนกับทางโรงพยาบาลบำรุ งราษฎร์ ผู้นำด้านธุรกิจทางการแพทย์ ในระดับประเทศและระดับสากล ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างพิ จารณาแผนธุรกิจและการเงินเพื่ อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการพั ฒนาการให้บริการด้านสุ ขภาพแบบครบวงจร ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ในด้านส่งเสริม (Enhancement), ป้องกัน (Prevention), รักษา (Cure) และฟื้นฟู (Restoration) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้ านแนวคิดการดูแลสุขภาพที่มุ่ งเน้นการบูรณาการและการแพทย์ แบบองค์รวมของบริษัทฯ ในอนาคตต่อไป

บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์ แผนการดำเนินงานและทิศทางเกมรุ กในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้ ในกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและเพื่ อการบริการ (Recurring Income) จากธุรกิจด้านธุรกิจพัฒนาอสั งหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม และธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพที่ มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่ องจะส่งผลให้ ภาพรวมผลประกอบการตลอดปี 2565 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ และต่อยอดธุรกิจในเครือ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและก้ าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่ อไป’’ นายวรสิทธิ์ กล่าวสรุป