โปรดทราบ! คุณกำลังอ่านเนื้อหาจากเว็บไซต์เก่า ลิงก์หรือการใช้งานอื่นๆจะไม่สามารถใช้งานได้
ครม.อนุมัติกทม. 2,500 ล้านบาท แก้น้ำท่วม 19 จุดเสี่ยง
ลงเมื่อ 22-08-2016 00:45:12
นายภัทรุฒม์ ทรรทานนท์ รองปลัดกทม.กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ ให้กทม.ก่อสร้างระบบระบายน้ำในถนนสายหลัก 11 เส้นทางวงเงิน 2,500 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อ่อนไหว 19 จุดครอบคลุมพื้นที่ 26 ตารางกิโลเมตร
สำหรับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะที่ 1 (เฟสแรก) จำนวน 11 เส้นทาง เป็นเงิน 2,227 ล้านบาท นั้นประกอบด้วย
ถนนสุขุมวิท 7 เส้นทาง โดยมีคลองแสนแสบเป็นคลองหลักในการระบายน้ำ ได้แก่
- ถนนสุขุมวิท 21 (อโศกมนตรี) , ซอยสุขุมวิท 31 และซอยสวัสดี , ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) , ซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) , ถนนสุขุมวิท 14 , ซอยสุขุมวิท 39 , ถนนสุขุมวิทจากซอยสุขุมวิท 107 ถึงคลองบางนา
และพื้นที่อื่น 4 เส้นทาง ได้แก่
- ถนนศรีอยุธยาและถนนพระราม 6 , ถนนพหลโยธินบริเวณแยกเกษตรศาสตร์ , ถนนทรงสวัสดิ์ ถนนเยาวราชและถนนเจริญกรุง , ถนนนราธิวาสนครินทร์ 17และถนนสวนพลู
ขณะที่ระยะที่ 2 (เฟสที่ 2) จำนวน 5 โครงการ เป็นเงิน 298 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหายน้ำท่วมถนนอู่ทองนอก (ลานพระราชวังดุสิต) , ปรับบ่อสูบน้ำถนนเพชรบุรี ตอนสถานทูตอินโดนีเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนศรีอยุธยา และถนนพระรามที่ 6 , ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ , ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนจันทร์ , ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนสุวินทวงศ์
มีการริเริ่มโครงการนี้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบระบายน้ำทิ้งที่ใช้ท่อขนาด 40 - 80 เซนติเมตร ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอและปรับเปลี่ยนได้ลำบาก ซึ่งเดิมสามารถรองรับการระบายน้ำในกรณีที่มีฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร
“เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดระยะเวลาการรอระบายให้สั้นลง แต่การระบายน้ำจะดีมากขึ้นแค่ไหนขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของฝนที่ตก ระยะเวลาที่ตก และพื้นที่ที่ฝนตก” นายภัทรุฒน์ กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นการก่อสร้างท่อคอนกรีตขนาด 1.5-2 เมตรใต้ผิวถนนในระดับ 3-5 เมตร โดยไม่มีการเปิดผิวจราจร ไม่ต้องมีการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อท่อมายังจุดรับน้ำรวมที่เป็นบ่อสูงเพื่อผลักดันลงสู่คลองแสนแสบ คลองบางนา คลองไผ่สิงโต คาดว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ราวต้นปี 60 ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินการเรื่องประกวดราคา ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเรื่องโครงสร้างระบบขนส่งมวลชน ระบบสาธารณูโภค โดยในปีแรกจะใช้งบประมาณ 440 ล้านบาท ปีที่สองจะใช้งบประมาณ 1,700 ล้านบาท
ที่มา Thaiquote.org
วันที่ 18 สิงหาคม 2559
สำหรับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะที่ 1 (เฟสแรก) จำนวน 11 เส้นทาง เป็นเงิน 2,227 ล้านบาท นั้นประกอบด้วย
ถนนสุขุมวิท 7 เส้นทาง โดยมีคลองแสนแสบเป็นคลองหลักในการระบายน้ำ ได้แก่
- ถนนสุขุมวิท 21 (อโศกมนตรี) , ซอยสุขุมวิท 31 และซอยสวัสดี , ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) , ซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) , ถนนสุขุมวิท 14 , ซอยสุขุมวิท 39 , ถนนสุขุมวิทจากซอยสุขุมวิท 107 ถึงคลองบางนา
และพื้นที่อื่น 4 เส้นทาง ได้แก่
- ถนนศรีอยุธยาและถนนพระราม 6 , ถนนพหลโยธินบริเวณแยกเกษตรศาสตร์ , ถนนทรงสวัสดิ์ ถนนเยาวราชและถนนเจริญกรุง , ถนนนราธิวาสนครินทร์ 17และถนนสวนพลู
ขณะที่ระยะที่ 2 (เฟสที่ 2) จำนวน 5 โครงการ เป็นเงิน 298 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหายน้ำท่วมถนนอู่ทองนอก (ลานพระราชวังดุสิต) , ปรับบ่อสูบน้ำถนนเพชรบุรี ตอนสถานทูตอินโดนีเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนศรีอยุธยา และถนนพระรามที่ 6 , ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ , ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนจันทร์ , ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนสุวินทวงศ์
มีการริเริ่มโครงการนี้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบระบายน้ำทิ้งที่ใช้ท่อขนาด 40 - 80 เซนติเมตร ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอและปรับเปลี่ยนได้ลำบาก ซึ่งเดิมสามารถรองรับการระบายน้ำในกรณีที่มีฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร
“เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดระยะเวลาการรอระบายให้สั้นลง แต่การระบายน้ำจะดีมากขึ้นแค่ไหนขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของฝนที่ตก ระยะเวลาที่ตก และพื้นที่ที่ฝนตก” นายภัทรุฒน์ กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นการก่อสร้างท่อคอนกรีตขนาด 1.5-2 เมตรใต้ผิวถนนในระดับ 3-5 เมตร โดยไม่มีการเปิดผิวจราจร ไม่ต้องมีการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อท่อมายังจุดรับน้ำรวมที่เป็นบ่อสูงเพื่อผลักดันลงสู่คลองแสนแสบ คลองบางนา คลองไผ่สิงโต คาดว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ราวต้นปี 60 ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินการเรื่องประกวดราคา ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเรื่องโครงสร้างระบบขนส่งมวลชน ระบบสาธารณูโภค โดยในปีแรกจะใช้งบประมาณ 440 ล้านบาท ปีที่สองจะใช้งบประมาณ 1,700 ล้านบาท
ที่มา Thaiquote.org
วันที่ 18 สิงหาคม 2559