โปรดทราบ! คุณกำลังอ่านเนื้อหาจากเว็บไซต์เก่า ลิงก์หรือการใช้งานอื่นๆจะไม่สามารถใช้งานได้
อสังหาฯ ปี58เน้นโครงการใหญ่หมื่นล้านระบุจุดเปลี่ยนเหตุที่ดิน หายาก ราคาแพง
ลงเมื่อ 26-10-2014 23:18:16

เซ็นจูรี่ฯ ชี้ทิศทางอสังหาฯปีหน้า เน้นลงทุนโครงการใหญ่ เลือกทำเลสร้างเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ด้านกระแสร่วมทุนยังแรงต่อเนื่องระบุหมดยุคฉายเดี่ยว เชื่อผู้ประกอบการมุ่งร่วมทุน สร้างจุดแข็งทางการเงืน เทคโนโลยี
นายชนะ นันทจันทูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นจูรี่ 21(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 จะเปลี่ยนไปสู่เมกะเทรนด์อย่างชัดเจน โดยเป็นการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ บนทำเลสำคัญ หรือบนทำเลแห่งใหม่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 -10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการลักษณะผสมผสานการลงทุน ทั้งการค้าปลีก สำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัยในพื้นที่เดียวกัน เพราะแต่ละโครงการเกิดขึ้นต้องการสร้างให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่
จุดเปลี่ยนดังกล่าว เกิดจากที่ดินย่านใจกลางเมืองสำหรับการพัฒนาโครงการหาได้ยากขึ้น โดยเฉพาะทำเลสาทรที่ไม่เหลือที่ดินให้พัฒนา ประกอบกับราคาขึ้นสูงมาก โดยปี 2556 ราคาที่ดินย่านใจกลางเมืองเฉลี่ย 1.5 ล้านบาท/ตร.วา แต่ปีนี้ขึ้นมาเป็น 1.8 ล้านบาท/ตร.วา ขณะที่ทำเลสุขุมวิท 2 ล้านบาท/ตร.วา หรือที่ดินแปลงสุขุมวิท 36 เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ มีราคาซื้อขาย 4,000 ล้านบาท
ตัวอย่างโครงการขนาดใหญ่ เตรียมจะเปิดตัวในปีหน้า เช่น โครงการเดอะเซ้นส์ ตั้งบนพื้นที่โรงเรียนเซ็นจอห์น เนื้อที่ 9 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1 หมื่นล้านบาท มีแผนพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม 1,500 ยูนิต ราคาขาย 1.2 แสนบาท/ตรม. ,โครงการของกลุ่มเฟรเกรนด์ พร็อพเพอร์ตี้ สุขุมวิท 36 เนื้อที่ 10 ไร่ เป็นโครงการมิกซ์ยูส ทั้งโรงแรม ค้าปลีก และคอนโดมิเนียมสูงที่สุดในไทย 80-100 ชั้น มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท
โครงการ "ซุปเปอร์ ทาวเวอร์" ของกลุ่มจีแลนด์ บริเวณสี่แยก พระราม 9 จะเป็นอาคารสูง 125 ชั้น ถือว่าเป็นอาคารสูงที่สุดในอาเซียน มูลค่าลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท ในรูปแบบมิกซ์ยูส
โครงการมูลค่า 5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม ย่านติวานนท์ ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข โครงการกลุ่มสยามนุวัตร ได้แก่ "วิช ซิกเนเจอร์ " ทำเลย่านถนนเพชรบุรี และแยกอโศก
นอกจากนี้ อีกกระแสที่มาแรงคือ การควบรวมกิจการ การร่วมทุน ระหว่างผู้ประกอบการ คนไทยด้วยกัน หรือกับนักลงทุนต่างชาติ เพราะทำให้เกิดศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากมีเงินทุนมากขึ้น และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องการก่อสร้าง
"ต่อไปจะหมดยุค ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ฉายเดี่ยว เพราะโครงการเดียวลงทุนนับเป็นหมื่นล้าน พัฒนาคนเดียวอาจไม่ไหว จึงต้องร่วมทุนกัน ต่างฝ่ายต่างนำจุดเด่นของตนเองมาผสานกัน" สำหรับทำเลที่มีศักยภาพในการลงทุน และเป็นที่นิยมในปีหน้า ยังคงเป็นย่านใจกลางเมือง (ซีบีดี) เช่นเดิม เช่น สุขุมวิท สีลม ส่วนทำเลที่จะครองความนิยมได้อีกหลายปีนั้นมี 4 ทำเล ประกอบด้วย 1.ทองหล่อ-เอกมัย 2.พญาไท-พหลโยธิน-สนามเป้า-สะพานควาย 3. สาทร-ศาลาแดง-สวนพลู ราคาที่ดินซื้อขายเปลี่ยนมือปัจจุบันอยู่ที่ 8 แสน-1 ล้านบาทต่อตร.วา และ 4.ห้าแยกลาดพร้าวถึงบริเวณจุดตัด ถนนรัชดาภิเษก ต่อไปจะหมดยุค ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ ฉายเดี่ยว
ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 26 ตุลาคม 2557

สมัครสมาชิก

อ่านเงื่อนไขการให้บริการ Terms & Conditions และ Privacy Policy
ยอมรับ และลงทะเบียนเพื่อสมัคร
ยอมรับ และสมัครง่าย ๆ ด้วย facebook